คงจะไม่มีใครที่มีความคิดที่สอดคล้องกันไปหมดทุกอย่าง มีหลายเรื่องที่คนเรานั้นต่างมีความคิดที่เป็นของตัวเอง และแตกต่างจากแนวความคิดของคนอื่น บางคนก็คิดอย่างโน้น บางคนก็คิดอย่างนี้ สุดท้ายเราก็มาทะเลาะกันเอง ความคิดเห็นมันสามารถที่แตกต่างกันได้ แต่ัมันสำคัญที่ว่าเราจะแตกแยกกันหรือเป่าเท่านั้น
การเมือง ทุกคนคงจะคุ้นเคยกับคำนี้ แต่มีใครบ้างละที่ลึกซึ่งถึงความหมายมันจริง ๆ แม้แต่นักการเมืองเองก็ช่างเถอะ ประเทศไทยเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นประชาธิปไตยในปี พ.ศ. 2475 หลาย ๆ คนคงจะทราบดี หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งนั้นจะมีใครรู้บ้างว่าตลอดระยะเวลาที่ประเทศไทยนั้นปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมันเิกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์หลาย ๆ เหตุการณ์ที่ทำให้ประชา่ชนคนไทยนั้นต้องมาเข่นฆ่ากันเอง "อย่ามาถามเลยว่าทำไม" ก็เพราะมีนักการเมืองที่ห่วย ๆ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง จนลืมไปว่าบ้านเมืองนั้นเป็นอย่างไร รัฐบาลโน้นขึ้นมาปกครองก็หาว่าเด็กเส้น รัฐบาลนี้ขึ้นมาปกครองก็หาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แล้วนี้มันอะไรกันครับท่าน ที่ชาวบ้านเขาออกมาชุมนุมท่านก็ใช้อาวุธสงครามยิงเขาตายตั้ง 91 ศพ "ถามหน่อยว่าใครรับผิดชอบ" ไม่มี อ้ายที่ตายมันก็ตายไป แต่หาคนมารับผิดชอบไม่ได้ ดีจังนะประเทศไทยนอกจากจะฆ่ากันเองแถมยังเห็นแก่ตัว ได้ใจริง ๆ รัฐบาลไทย
สำหรับรัฐธรรมนูญที่ใช้ในการปกครองส่วนมากใครเขาก็เห็นรัฐธรรมนูญฉบับ 2544 เป็นฉบับที่ดีที่สุด เพราะมีประชามัติ แต่พอเกิดการรัฐประหารขึ้น เปลี่ยนรัฐธรรมนูญเป็นฉบับ 2550 (ฉบับชั่วคราว) เขาประกาศออกมาว่าเป็นฉบับชั่วคราว แต่ทำไมถึงใช้กันมาถึง 4-5 ปีละ (ไม่รักษาคำพูดนี่น่า ไม่เป็นผู้นำเอาสะเลย) บางคนเอารัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับนี้มาเปรียบเทียบกัน อันไหนดีอันไหนเสีย แทนที่จะเอาข้อดีทั้งสองรัฐธรรมนูญนั้นมารวมกัน (ทำแบบนี้ดีกว่าไหม) สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่นั้นไม่ใช่เป็นเพราะรัฐธรรมนูญหรอกครับ แต่ที่เป็นปัญหาก็คือคนนี่แหละ ใครที่เห็นมันว่าเป็นปัญหามันก็เป็นปัญหาอยู่วันยังค่ำ ไม่มีอะไรดีหรอกถ้าไม่รู้จักคำว่าพอสักที รัฐธรรมนูญฉบับไหนก็ดีหมดแหละ แต่ที่ไม่ดีก็เพราะมีคนโกงบ้านโกงเมืองอยู่นี่แหละ ปากก็อ้างว่าอยากให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีสถานภาพที่ดีขึ้น แต่ก็คอลัปชันกันไม่หยุดหย่อน แบบนี้ประเทศไทยจะเจริญได้ไง (ว่าไปเดียวเขาก็ว่าเอาหรอก) จะพูดแต่ปากไปหรือเป่า นักการเมืองก็ถกเทียงกันในสภาหลายเรื่องก็ดีหลายเรื่องก็ไม่ดี แต่หารู้ไม่ว่าประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว อะไรที่สมควรที่จะแก้ไขก็ไม่แก้สักทีมัวแต่เทียงกันอยู่นั่นแหละ
คนไทยเป็นอีกประเภทหนึ่งที่ชอบอ้างอิงเรื่องของฝรั่ง ทฤษฎีโน้นทฤษฎีนี้ถึงจะเชื่อว่ามันเป็นจริงตามที่เขาพูด ทั้งที่ทฤษฎีของคนไทยก็มีแต่ไม่เอา การปกครองก็เช่นกันประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยเพียง 79 ปี แต่มีรัฐธรรมนูญถึง 18 ฉบับ (เยอะจริง ๆ) แต่ส่วนที่ดีของฝรั่งไม่เอามาเป็นแบบอย่าง เช่นอังกฤษ และสหรัส มีแค่ฉบับเดียว
สรุปแล้ว ก่อนที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศนักการเมืองนั่นแหละควรที่จะแก้ไขสามัญสำนึกของตัวเองสะบ้าง จะได้หูตาสว่างว่าประชาชนเขาเป็นอยู่ยังไง ถ้าแก้ที่ตัวเองแก้ที่รัฐไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ....
ก่อนอื่นมั้ยต้องโทษใคร ต้องมองที่จิตใต้สำนึกของตัวเราเองว่ามีความรักและภูมิใจในแผ่นดินเกิดมากแค่ไหน ถ้าเรามั้ยมีความคิดนั้นเลย มันก้ยากที่จะทำให้ประเทศนั้นจะพัฒนาแแหละเจริญ
ตอบลบอยากให้นักการเมืองหลายๆๆคน อ่านข้อความบทนี้มาก เลย (เพื่อเขาจะคิดอะไรได้บ้าง)
ตอบลบจะดีหรือไม่ดี มันต้องขึ้นอยู่กับตัวเราก่อน และปัญหาก็ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุใช่แ้ก้ที่ปลายเหตุถึงจะสำเร็จ
ตอบลบ